หลังจากคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับทุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) วิจัยเพาะเลี้ยงปลาหนังเนื้อขาวลูกผสมที่ได้จากการนำปลาบึกกับปลาสวายมาปรับปรุงสายพันธุ์เป็นปลาบึกสยามแม่โจ้ ได้สำเร็จเมื่อปี 2554 ล่าสุด วช.ได้นำปลาบึกสยามแม่โจ้ไปส่งเสริมให้ชาวบ้าน ต.โสน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ได้เลี้ยงตามคำร้องขอของชาวบ้าน ที่ทำจดหมายไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี
ศ.นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เลขาธิการ วช. เผยว่า ได้นำลูกพันธุ์ปลาบึกสยามขนาด 50 กรัม และ 300 กรัม จำนวน 200 ตัว มาปล่อยบ่อน้ำชุมชนหมู่บ้านโสน เพื่อให้ชาวบ้านฝึกเลี้ยง และฝึกทำอาหารโดยใช้หญ้าเนเปียร์ กากชา และใบกระถิน ที่มีโปรตีนสูงแทนปลาป่น และเมื่อชาวบ้านสามารถเลี้ยงเองได้แล้ว จะนำปลาพันธุ์มาเพาะที่ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อให้เกษตรกรได้นำไปเลี้ยงเป็นอาชีพต่อไป เนื่องจากปลาบึกสยามแม่โจ้มีลักษณะเด่น อายุ 2 ปีครึ่ง สามารถนำมาเป็นพ่อแม่พันธุ์ ให้ไข่อัตราเฉลี่ย 40,000 ฟอง/ครั้ง เลี้ยงได้ในน้ำแค่ 1 ลูกบาศก์เมตร ในขณะที่ปลาบึกต้องใช้น้ำมากถึง 10 เท่า และจะใช้เวลาเลี้ยงเพียง 14 เดือน น้ำหนักเฉลี่ย 2.5 กก. สามารถขายได้ในราคา กก.ละ 80-90 บาท ไม่เหมือนปลาบึกที่ต้องเลี้ยงนานถึง 4 ปี.