หลังหายจากทะเลสาบสงขลาไปกว่า 10 ปี...วันนี้ กุ้งหัวมันได้กลับมาอีกครั้งสมควร สุวรรณรัศมี พรานปลาทะเลสาบสงขลา ต.คูขุด อ.สะทิงพระ จ.สงขลา เล่าว่า ทำอาชีพจับปลาในทะเลสาบมาตั้งแต่ 11 ขวบ ล่องเรือในทะเลสาบมาทุกตารางนิ้ว รู้จักลมทะเล ตรงไหนลึก มีปลา รู้กระทั่งเส้นทางการเดินของกุ้งจึงเห็นการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ยุครุ่งเรืองมาสู่ยุคเรือด่วน เป็นยุคที่บรรยากาศคึกคักมาก คนรอบทะเลสาบสงขลา นครศรีธรรมราช พัทลุง จะเดินทางค้าขายกันคึกคัก แต่วันนี้ไม่มีเรือด่วนอีกแล้ว เพราะน้ำตื้นเรือแล่นไม่ได้ ปลาไม่อุดมสมบูรณ์เหมือนก่อน เพราะแดดส่องถึงดิน น้ำร้อนปลาอยู่ไม่ได้

ปี 2535 ชาวบ้านเลยเสนอให้ทำเขตอนุรักษ์ เนื่องจากปลาในทะเลสาบไม่มีพื้นที่ปลอดภัยให้วางไข่เติบโตได้ เพราะทะเล สาบเนื้อที่ 7 แสนกว่าไร่มีเครื่องมือประมงนานาชนิดเต็มไปหมด ตั้งแต่ปากอ่าวสงขลาถูกขวาง ไว้ด้วยโพงพาง ถัดมามีไซตู้ อวนดักปลาดักกุ้ง ที่ร้ายแรง คือ การช็อตปลา และยาเบื่อทำเขตอนุรักษ์สร้างที่หลบภัยให้กับสัตว์น้ำ เป็นหนทางหนึ่งในการฟื้นฟูทะเลสาบ เพียงกำหนดพื้นที่ตามชุมชนต้องการ อย่างบ้านคูขุด อยู่หน้าอุทยานนกน้ำ ใช้หลักเขตปักเป็นแนว มีอาสาสมัครดูแล และประกาศแจ้งให้ชาวประมงทราบ...ห้ามทำประมง

แต่หากสัตว์น้ำว่ายน้ำออกมานอกเขตพื้นที่กำหนด สามารถทำประมงได้ และทาง กรมประมง ให้ความร่วมมือกับชาวชุมชนทำเขตอนุรักษ์แล้ว พบว่า การเพิ่มของสัตว์น้ำยังมีไม่มากพอ...จึงได้ร่วมกับ มูลนิธิเอสซีจี นำสัตว์น้ำจำพวก กุ้ง ปลา มาปล่อย โดยการสนับสนุนจากศูนย์เพาะฟักหลายพื้นที่ปัจจุบันชาวประมงยอมรับแล้วว่า เขตอนุรักษ์สามารถเพิ่มสัตว์น้ำให้กับทะเลสาบ และช่วยชาวประมงมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย

ยิ่งปีนี้ฝนตกมาก ทะเลสาบมีความอุดมสมบูรณ์ขึ้น มีกุ้งหลายชนิดให้จับ กุ้งก้ามกรามตัวโตๆ “ปลาทก”คล้ายปลาสวายตัวโตน้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม ที่หายไปร่วม 30 ปี ก็มีให้ชาวประมงได้เห็นอีกครั้งกุ้งหัวมันจากเดิมทีเคยอาศัยอยู่บริเวณทะเลน้อย จ.พัทลุง และเมื่อถึงหน้าฝนจะเดินทางไปวางไข่ในพื้นที่น้ำเค็ม ผ่านปากอ่าวทะเลสาบ ในช่วง 3 ถึง 12 ค่ำ แต่ช่วง 8 ค่ำ จับได้มากที่สุดเพราะน้ำลง คืนหนึ่งจับได้ 20-30 กก. กก.ละ 120 บาท จากเมื่อก่อนจับได้แค่วันละ 4-5 กก. เท่านั้นเอง. 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์