แม้นักวิทยาศาสตร์จะได้ผลสรุปถึงที่มาของโรค EMS หรือโรคตายด่วนในกุ้ง มีต้นตอจากเชื้อแบคทีเรียและสภาพแวดล้อมในธรรมชาติเปลี่ยนไปจากภาวะโลกร้อน พร้อมมีแนวทางในการระวังป้องกันโรคที่ทำให้กุ้งวัยอ่อนตายยกบ่อได้แล้วก็ตาม
แต่ปัญหาโรคนี้ก็ยังไม่หมดไป ยังคงเกิดขึ้นทั่วไปในหลายประเทศ รวมทั้งในประเทศไทยของเรา เลยมีความพยายามเสาะหาวิธีการใหม่ๆ เอาชนะโรค EMS อยู่ตลอดเวลา การวิจัยพัฒนากุ้งสายพันธุ์ใหม่ เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เลือกนำมาใช้เผชิญปัญหา
“หลังจากเราพัฒนาสายพันธุ์มานาน พบว่ากุ้งสายพันธุ์ใหม่ กุ้งขาวแปซิฟิก หรือที่เรียกว่า Pacific white shrimp มีความต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศบนโลกได้ดี ความทนต่อโรค EMS ได้ในระดับหนึ่ง โดยเป็นกุ้งพันธุ์ผสมระหว่าง กุ้งข้าวนำเข้ามาจากอเมริกาใต้กับกุ้งกุลาดำของบ้านเรา เพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของประเทศไทย หลังจากได้นำไปทดลองเลี้ยงในทุกสภาวะ ปรากฏว่า กุ้งพันธุ์นี้มีอัตราการรอดชีวิตมากกว่าพันธุ์อื่น”
น.สพ.สุจินต์ ธรรมศาสตร์ รอง กก.ผจก.สายงานเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและสายงานวิจัยและพัฒนาพันธุ์สัตว์และเทคโนโลยีการเลี้ยงสัตว์น้ำซีพีเอฟ บอกว่า เมื่อนำกุ้งขาวแปซิฟิกมาเพาะเลี้ยงในโครงการเลี้ยงกุ้งครบวงจรร้อยเพชร อ.เขาสมิง จ.ตราด พบว่า กุ้งขาวพันธุ์ใหม่นี้มีอัตรารอดจากโรคอีเอ็มเอส สูงถึง 85% ในขณะที่การเลี้ยงกลางแจ้งและใช้สายพันธุ์อื่น มีอัตรารอดเพียง 40-60% เท่านั้น
รองกรรมการผู้จัดการสายงานเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำฯ ซีพีเอฟ แนะว่า การจะเลี้ยงกุ้งให้รอดจากโรค EMS ได้ดี ควรเลี้ยงในโรงเรือนปิดที่ซีพีเอฟได้นำรูปแบบโรงเรือนเลี้ยงปลาของยุโรปมาประยุกต์ใช้เลี้ยงกุ้ง นอกจากจะป้องกันโรคได้แล้ว ยังได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นอีกด้วย เพราะโรงเรือนระบบปิดหรืออีแวป ที่ CPF ทำบนพื้นที่ 70 ไร่ สามารถให้ผลผลิตถึงปีละ 12,000 ตัน.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์