บ้านแหลมเทียน หมู่ 1 ต.อ่าวใหญ่ อ.เมือง จ.ตราด เป็นอีกหมู่บ้านหนึ่งที่ประสบปัญหาการเข้ามาลักลอบทำการประมงคราดหอยในเขตชายฝั่งของกลุ่มเรือคราดหอยนอกพื้นที่ ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านได้รับความเดือดร้อนจากเครื่องมือประมงที่ได้รับความเสียหาย คุณภาพน้ำที่เปลี่ยนแปลงไป ปริมาณสัตว์น้ำลดน้อยลง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกรมประมง จึงได้ร่วมมือกับกลุ่มชาวประมงในพื้นที่ ได้จัดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ทำให้ปัญหาการลักลอบเข้ามาคราดหอยลายลดน้อยลง และชาวประมงบ้านแหลมเทียนและพื้นที่ใกล้เคียง ได้นำหอยลายขึ้นมาใช้ประโยชน์ โดยไม่ผิดกฎหมายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถสร้างรายได้อย่างดีให้กับชาวประมง
นายวิระ จิตรสุวรรณ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปราบปรามประมงทะเล กรมประมง กล่าวว่า การเข้ามาลักลอบทำการประมงในเขตชายฝั่งบ้านแหลมเทียนทำให้เครื่องมือประมง (อวนลอย) ของชาวประมงพื้นบ้านได้รับความเสียหาย หน่วยบริหารจัดการประมงทะเล เกาะช้าง ตราด ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยงานหลักในการแก้ปัญหาการทำการประมง ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหา เช่น การจัดชุดเฝ้าระวังของชุมชน ทั้งการตรวจตราเฝ้าระวังในช่วงปกติ การตรวจสอบ ประชาสัมพันธ์ และการจับกุมเรือคราดหอยที่เข้ามาลักลอบทำการประมงในเขตหวงห้าม 3,000 เมตร นอกจากนี้ กลุ่มชาวประมงและเจ้าหน้าที่กรมประมงได้นำต้นหมากปักแนวเขต 3,000 เมตร ตามแนวชายฝั่งของหมู่ 1 และหมู่ 4 ต.อ่าวใหญ่ ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร เพื่อเป็นการแสดงแนวเขตในการอนุรักษ์สัตว์น้ำ
หลังจากมีการปักแนวเขตและจัดชุดเครือข่ายเฝ้าระวัง ทำให้กลุ่มเรือคราดหอยส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้ามาในพื้นที่ชายฝั่งบ้านแหลมเทียน เนื่องจากกลัวถูกจับกุม แต่ยังมีกลุ่มเรือประมงคราดหอยลายบางลำที่เข้ามาทำการประมงคราดหอยลายในเขต 3,000 เมตร ชาวประมงได้พร้อมใจกันนำเรือประมงพื้นบ้าน รวม 20 ลำ ออกขับไล่ทำให้กลุ่มเรือประมงคราดหอยลายหนีออกไป ซึ่งถือเป็นความสำเร็จในการรวมพลังของชาวประมง
ด้านนายมนตรี ธรรมโชติ ประธานกลุ่มประมงพื้นบ้าน บ้านแหลมเทียน กล่าวว่า นอกจากเราจะช่วยกันเป็นหูเป็นตาไม่ให้ประ มงต่างถิ่นนำเรือใหญ่เข้ามาในเขต 3,000 เมตร เข้ามาลักลอบคราดหอยโดยใช้เครื่องมือที่ผิดกฎหมายแล้ว เรายังร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติหอยลายโดยการใช้คราดมือ โดยใช้อุปกรณ์ในการคราดหอยลาย ที่มีชื่อว่า “ตะแกรงกระดื๊บ” ขนาดความกว้างของตะแกรง 70 ซม. ลึก 30 ซม. ปากกว้าง 5 นิ้ว ความถี่ตะแกรง 11 มิลลิเมตร หอยที่ได้จึงตัวใหญ่ โดยในแต่ละวันชาวประมงจะออกไปคราดหอยลายตั้งแต่เวลา 06.00–15.00 น. ซึ่งแต่ละรายจะสามารถคราดหอยลายด้วยมือได้ประมาณ 30-40 กิโลกรัมต่อวัน และจะมีพ่อค้ารับซื้อในราคากิโลกรัมละ 46 บาท
นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งกลุ่มกองทุนประมงทะเลพื้นบ้าน บ้านแหลมเทียน ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 ด้วยเงินงบประมาณโครงการพัฒนาประมงทะเลชายฝั่งพื้นบ้าน 150,000 บาท ซึ่งสนับสนุนโดยกรมประมง ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 190 ราย เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนให้บริการเงินกู้แก่สมาชิกใช้สำหรับลงทุนประกอบอาชีพ เพื่อให้สมาชิกมีสถานะการเงินที่มีสภาพคล่อง ไม่เป็นหนี้นอกระบบ มีสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมั่นคง สอดคล้องตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอีกด้วย
จากการแก้ไขปัญหาในการลักลอบ เข้ามาทำการประมงของกลุ่มเรือคราดหอย และการใช้เครื่องมือคราดหอยขนาดเล็ก หรือตะแกรงกระดื๊บ นำหอยลายขึ้นมาใช้ประโยชน์ ที่ไม่ผิดกฎหมายประมงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้เห็นได้ว่าหมู่บ้านแหลมเทียนเป็นหมู่บ้านชาวประมงต้นแบบที่มีความเข้มแข็งในการรวมกลุ่มกันอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน และสามารถขยายผลไปสู่ชุมชนอื่น ๆ ได้.
ที่มา : http://www.dailynews.co.th