การขยายพันธุ์ปลาดุกด้วยวิธีการผสมเทียม
เว็บมาสเตอร์ |
++การเลี้ยงพ่อ- แม่พันธุ์ปลาดุก++ พ่อแม่พันธุ์ปลาดุกควรเลี้ยงในบ่อดิน ปล่อยในอัตรา 10-20 ตัว/ตรม. เพราะถ้าปล่อยหนาแน่นเกินไปมีผลทำให้ไข่และน้ำเชื้อเจริญไม่ดี ระดับน้ำในบ่อประมาณ 1.0- 1.5 เมตร การให้อาหารควรให้อาหารที่มีโปรตีนไม่ต่ำกว่า 30 % ในอัตรา 1-3 %ของน้ำหนักตัว และควรมีการถ่ายเทน้ำบ่อยๆเพื่อกระตุ้นให้ปลากินอาหารได้ดี และพัฒนาระบบสืบพันธุ์ของปลาให้มีไข่และน้ำเชื้อดียิ่งขึ้น ฤดูกาลผสมระหว่างปลาดุกอยู่ระหว่างเดือน มีนาคม- ตุลาคม ++การคัดพ่อ-แม่พันธุ์++ พ่อแม่พันธุ์ปลาดุกที่นำมาใช้ ควรเป็นปลาที่สมบูรณ์ ไม่บอบช้ำ และมีอายุตั้งแต่ 1 ปี ขึ้นไป การสังเกตลักษณะเพศภายนอกของแม่ปลาที่สมบูรณ์เพศสังเกตจากลักษณะของอูมท้องเป่ง เมื่อมองลงมาจากด้านบนเห็นได้ชัดเจน เมื่อหงายท้องเห็นติ่งเพศ มีลักษณะกลม มีสีแดง หรือสีชมพูอมแดงถ้าเอามือบีบเบาๆ ที่บริเวณช่องท้องทางออกของไข่จะพบไข่ที่มีลักษณะเป็นเม็ดกลมสีน้ำตาลอ่อนไหลออกมา แม่พันธุ์ปลาดุกอุยที่นำมาใช้ในการเพาะพันธุ์ไม่ควรอ้วนหรือผอมจนเกินไป ขนาดของแม่พันธุ์ปลาดุกควรมีขนาดตั้งแต่ 200 กรัม ส่วนปลาดุกเพศผู้ เลือกปลาที่แข็งแรงสมบูรณ์ไม่เป็นโรค ติ่งเพศยาวเรียว มีสีชมพูเรื่อๆ ควรมีขนาด 2 กิโลกรัม อายุไม่ต่ำกว่า 2 ปี ลักษณะลำตัวเพรียวยาว และไม่อ้วนจนเกินไป ข้อควรระวังในการคัดพ่อแม่พันธุ์ : 1. ในปลาดุกเพศเมีย ถ้าพบว่าติ่งเพศบวมมีสีแดงช้ำ แม้ท้องจะดีก็ไม่ควรนำมาเพาะ เพราะจะไม่มีผล ถ้าติ่งเพศมีสีซีดไม่เข้มก็แสดงว่าไข่ไม่สมบูรณ์เช่นเดียวกันไม่ควรนำมาเพาะ 2. ในการจับปลาเพศเมียควรทำอย่างระมัดระวังอย่าให้แม่ช้ำ ควรใช้สวิงไม่ควรจับโดยบีบบริเวณโคนครีบหู เพราะทำให้ไข่ทะลักออกมา
++เทคนิคการเพาะพันธุ์ปลาดุกอุย++ การคัดพ่อแม่พันธุ์ ปลาที่นำมาเพาะต้องเป็นปลาที่มีไข่แก่ ส่วนใหญ่อาศัยการสังเกตจาการดูติ่งเพศ ปลาที่มีไข่แก่มีการขยายตัวของติ่งเพศ และส่วนท้องขยายนิ่ม ทั้งนี้ต้องขึ้นกับประสบการณ์ ความชำนาญ และความช่างสังเกตของผู้เพาะพอสมควรการเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ปลา ในการเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ปลาไม่ควรเลี้ยงให้พ่อแม่ปลาอ้วนเกินไป เพราะทำให้ไข่และน้ำเชื้อไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร ในช่วงฤดูการผสมพันธุ์ควรมีการเปลี่ยนแปลงถ่ายน้ำบ่อยครั้ง - วิธีการคัดพ่อแม่พันธุ์ ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพื่อให้พ่อแม่ปลามีความบอบช้ำน้อยที่สุด และควรงดการให้อาหาร ก่อนการคัดประมาณ 1 วัน เพื่อป้องกันการผิดพลาดจากการขยายตัวของท้องเนื่องจากปริมาณอาหารที่กินเข้าไป - การเตรียมบ่อพักพ่อแม่ปลา ต้องเตรียมความพร้อมให้กับแม่ปลาให้มากที่สุด ดังนั้นในบ่อพักควรจัดเตรียมระบบฝนเทียม และระบบน้ำเข้าออกให้พร้อม การเลือกใช้ความเข้มข้นของฮอร์โมนให้เหมาะสม ในการเพาะพันธุ์ปลาดุกบิ๊กอุยจำเป็นต้องฉีดฮอร์โมนกระตุ้นให้กับแม่ปลา ปริมาณความเข้มข้นของฮอร์โมนนับว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญ การฮอร์โมนที่มีความเข้มข้นสูงเกินไปจะมีผลทำให้อัตราการผสม และอัตราการฟักต่ำลง ส่วนการใช้ฮอร์โมนในปริมาณความเข็มน้อยเกินไปส่งผลให้แม่ปลาไม่สามารถตกไข่ได้ ++อุปกรณ์ที่ใช้ในการผสมเทียม++ 1. พ่อ-แม่พันธุ์ปลา 2. ฮอร์โมนกระตุ้น 3. กระชอนตักปลา 4. เข็มฉีดยา 5. ตาข่ายไนล่อน 6. น้ำเกลือ 7. ถ้วยบดยา 8. ถ้วยใส่ไข่ปลา 9. เครื่องให้ออกซิเจน 10. บ่อซีเมนต์ ขนาด 2x3 เมตร ++วิธีการผสมเทียม++ -นำพ่อ-แม่พันธุ์มาฉีดฮอร์โมนกระตุ้น เพื่อให้ไข่สุกและมีน้ำเชื้อพร้อมผสม ซึ่งการฉีดฮอร์โมนปลาดุกนั้น ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดคือ บริเวณกล้ามเนื้อใต้ครีบหลังส่วนต้นเหนือเส้นข้างตัว โดยใช้เข็มเบอร์ 22-24 แทงเข็มเอียงทำมุมกับลำตัวประมาณ 30 องศา แทงลึกประมาณ 1 นิ้ว -การรีดไข่ของปลาดุกเพื่อผสมกับน้ำเชื้อนั้นใช้วิธีกึ่งเปียก เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด นำแม่ปลาที่ได้รับการฉีดฮอร์โมนและมีไข่แก่เต็มที่แล้วมารีดไข่ใส่ในภาชนะผิวเรียบ เช่น กะละมังเคลือบ พร้อมกันนี้ผ่าเอาถุงน้ำเชื้อจากพ่อปลา นำมาวางบนผ้ามุ้งเขียว แล้วขยี้ให้ละเอียดพร้อมกับเทน้ำเกลือเข้มข้นประมาณ 0.7 % หรือน้ำสะอาดลงบนผ้ามุ้งเขียวที่ขยี้ถุงน้ำเชื้อให้น้ำไหลผ่านเพื่อให้น้ำเชื้อลงไปผสมกับไข่ ผสมไข่กับน้ำเชื้อให้เข้ากันโดยการคนเบา ๆ ด้วยขนไก่ประมาณ 2-3 นาที จึงนำไข่ที่ได้รับการผสมแล้วไปล้างน้ำสะอาด 1 ครั้ง แล้วนำไปฟัก โดยน้ำเชื้อจากปลาตัวผู้หนึ่งตัวสามารถผสมกับไข่ที่ได้จากการรีดปลาเพศเมียประมาณ 10 ตัว -การเตรียมบ่อฟัก บ่อที่ใช้ในการฟักปลาควรทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคก่อนนำมาใช้ และควรจัดเตรียมระบบน้ำเข้า-ออกให้พร้อม แผงฟักไข่ที่ใช้ควรล้างและทำความสะอาดและตากให้แห้งก่อนการนำมาใช้ทุกครั้ง ระบบน้ำที่ใช้ในบ่อฟักต้องเตรียมให้พร้อม โดยเฉพาะเวลาที่ไข่ปลาฟักออกเป็นตัว จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมาก เพื่อเป็นการป้องกันการเน่าเสียของน้ำที่เกิดจากการย่อยสลายของเปลือกไข่ -การอนุบาลลูกปลาดุกในบ่อซีเมนต์ บ่อซีเมนต์ที่ใช้ในการอนุบาลควรมีขนาดประมาณ 2-5 ตารางเมตร ระยะแรกควรใส่น้ำในบ่อประมาณ 10-15 เซนติเมตร อัตราการปล่อยประมาณ 3000- 5000 ตัว/ ตรม. ในช่วง 1-7 วัน ของการอุบาลปลาควรให้ไรแดงกินเป็นอาหาร ซึ่งระยะนี้เป็นระยะที่มีความสำคัญมากต่อการอยู่รอดของลูกปลา ผู้อนุบาลควรดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งในเรื่องคุณภาพของน้ำและปริมาณอาหารที่ให้ต้องเพียงพอต่อความต้องการของลูกปลา ถ้าลูกปลาขาดอาหารในระยะนี้ทำให้ลูกปลามีอัตราการรอดตายต่ำ และการเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ เมื่ออนุบาลครบ 7 วัน ควรให้อาหารสมทบ เช่น ไข่ตุ๋นบดละเอียด เต้าหู่อ่อนบดละเอียด หรืออาหารผงสำเร็จรูป ซึ่งระหว่างการให้อาหารสมทบควรระวังเกี่ยวกับการเน่าเสียของน้ำ ในบ่อปลาดุกอนุบาลควรมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำทุกวัน การอนุบาลลูกปลาดุกให้มีขนาด 2-3เซนติเมตรใช้เวลาประมาณ 10-14 วัน การเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ ควรปรับสภาพของน้ำในบ่อที่เลี้ยงให้มีสภาพเป็นกลางหรือเป็นด่างเล็กน้อย แต่ต้องแน่ใจว่าบ่อซีเมนต์ต้องหมดฤทธิ์ของปูน ขนาดลูกปลาที่ใช้เลี้ยงเริ่มต้นควรมีขนาดประมาณ 2-3 นิ้ว เพื่อสะดวกต่อการถ่ายเทน้ำ และการให้อาหาร ระดับน้ำในบ่อควรมีความลึกประมาณ 20-30 เซนติเมตร เมื่อลูกปลาเติบโตขึ้นค่อยๆ เพิ่มระดับน้ำให้สูงขึ้นตามสำดับ เลี้ยงด้วยอาหารเม็ดลอยน้ำสำเร็จรูปให้ประมาณ 3-5 % ของน้ำหนักตัวปลา โดยปล่อยในอัตรา 100-150 ตัว/ตรม. ปลาจะเติบโตได้ขนาดประมาณ 150-200 กรัม/ตัว ในระยะเวลาเลี้ยงประมาณ 90-120 วัน อัตราการรอดตายประมาณ 80-90% ซึ่งอาหารที่ใช้ในการเลี้ยงสามารถใช้อาหารชนิดต่างๆ ทดแทนอาหารเม็ดลอยน้ำสำเร็จรูปก็ได้ โดยใช้อาหารจำพวก ไส้ไก่ โครงไก่ หรือปลาเป็ดบดผสมกับรำก็ได้ ซึ่งการใช้อาหารแบบนี้จำเป็นต้องถ่ายน้ำมากเพื่อป้องกันน้ำเน่าเสีย ที่มาข้อมูล : http://www.rakbankerd.com/ Link: คลิ๊กที่นี่ |